Avareum Market Outlook: July 2023
Macroeconomics
Capital Flow
ถ้าดูเม็ดเงินที่ไหลเข้าดอลล่าร์ในช่วงเดือนมิถุนายน 2023 เราจะยังเห็นได้ว่า capital inflows เข้าดอลล่าร์ยังคงเป็นบวกต่อเนื่องที่ 1.02% โดยทีมงาน Avareum เคยวิเคราะห์ไว้ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ยังเป็นส่วนต่างที่สูงอยู่มาก เราจึงมีความเห็นว่า แนวโน้มดอลล่าร์น่าจะยังคงแข็งตัวต่อเนื่องจาก Capital Inflows ที่น่าจะยังคงไหลเข้าสู่เงินดอลล่าร์ แต่จากการประชุม FOMC เมื่อเดือนมิถุนายน เมื่อ FED ประกาศคงดอกเบี้ย และเตรียมขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง 0.5% ภายในปีนี้ ซึ่งทำให้การคาดการณ์ดอกเบี้ย ณ ปี 2023 จะอยู่ที่ประมาณ 5.6% น่าจะทำให้นักลงทุนเริ่มเห็นจุดสิ้นสุดของการขึ้นดอกเบี้ยของ FED แล้ว จึงทำให้ดอลล่าร์อาจจะมีแนวโน้มแข็งตัวถึงระดับหนึ่งก่อนจะเริ่มหมดกำลังสอดคล้องกับช่วงระยะเวลาการขึ้นดอกเบี้ยระยะสุดท้าย
Dot Plot และการวางแผนขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ของ FED บ่งบอกอะไรบ้าง?
FED ไม่สามารถหยุดการขึ้นดอกเบี้ยแบบทันทีทันใด
เราไม่ทราบจริง ๆ ว่าทาง FED มองสถานการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้ออย่างไร แต่แม้ FED จะอยากหยุดการขึ้นดอกเบี้ย แต่ในภาคปฏิบัตินั้นไม่สามารถทำอย่างกระทันหันได้ เพราะจะส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อตลาดทันที ทำให้ FED จึงใช้วิธีการ “ลดความเร่ง” โดยค่อย ๆ แตะเบรคการขึ้นดอกเบี้ยให้เพิ่มขึ้นช้า ๆ (รอบนี้คงเดิม แล้วค่อยไปขึ้นรอบหน้า 0.25% อะไรแบบนี้) เพื่อให้ตลาดค่อย ๆ ปรับตัว การขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเป็นช่วงระยะสุดท้ายในปีนี้
สิ่งนี้พอจะคาดการณ์กันได้แล้ว (ถึงทำให้เกิดสภาวะ Inverted Yield Curve เด่นชัดที่สุดในประวัติศาสตร์ ในช่วงที่ผ่านมา) ทำให้คนแห่กันไปถือพันธบัตรระยะยาว เพื่อหวังผลตอบแทนจาก Mark to Market ในช่วงเวลาของดอกเบี้ยขาลง การปรับตัวลงของดอกเบี้ยอาจจะไม่ได้เกิดในเร็ววัน แต่ก็ไม่แน่
ประเด็นนี้อ้างอิงจาก FED ที่ว่าดอกเบี้ยน่าจะคงระดับที่ 5.6% ในระยะเวลา 1-2 ปี แต่เราต้องเข้าใจว่า FED จะประเมินสถานการณ์ใหม่จากสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ต่อเนื่องในปีที่ผ่านมาทำให้ FED มีระดับดอกเบี้ยสูงพอที่จะ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” หากเกิดภาวะ Recession ที่รุนแรงขึ้น ดังนั้นเราอาจจะฟันธงไม่ได้ แต่ก็มีแนวโน้มที่ FED จะใช้นโยบายผ่อนคลาย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้าอยู่บ้างเหมือนกัน
Inflation
ภาวะเงินเฟ้อสหรัฐเดือนพฤษภาคม 2023 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 4.0% ลดลงต่อเนื่องแต่ก็ยังสูงกว่าเงินเฟ้อที่ FED ต้องการอยู่อีกพอสมควร
แต่ FED ยังคงมีการลดงบดุลอย่างต่อเนื่อง (แม้งบดุลจะเพิ่มขึ้นมา 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐในช่วงที่เกิดวิกฤติธนาคารล้มละลายก็ตาม)
ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกายังคงได้รับอานิสงค์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ที่จะมีเงินไหลเข้ามาที่ตลาดทุนสหรัฐมากขึ้น ทำให้มุมมองของ Avareum Research ระยะยาวยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่มีการปรับฐานลงมารุนแรงในปี 2022 (นับจากต้นปี 2023 Nasdaq Composite ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 32.30% แล้ว) แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการกลับตัวที่รุนแรงมาชนแนวต้านที่ 61.8% รวมถึงศักยภาพในการทำกำไรของหุ้นกลุ่มนี้ก็เริ่มที่จะจำกัดมากขึ้น ทำให้ในระยะสั้นมีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะมีการปรับฐานอยู่พอสมควรเหมือนกัน