สัญญาณเชิงบวก: Bitcoin มองหาทางฝ่าวิกฤติตลาดขาลง
ข่าวล่าสุด: Bitcoin พุ่งทะลุ $84,500 มุ่งยุติแนวโน้มขาลงขณะที่ Trump ยกเว้นเทคโนโลยีหลักจากภาษีตอบโต้
Bitcoin (BTC) ได้พุ่งขึ้นเกินกว่า 1.5% ถึงราคา $84,900 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีแนวโน้มที่จะยุติแนวโน้มขาลงที่ดำเนินมานานถึงสามเดือนหลังจากฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับภาษีตอบโต้ ทั้งนี้ได้นำเอาผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ชิพ และสินค้อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ออกจากภาษี 125% ของจีนและทำให้ภาษีพื้นฐานทั่วไปลดลงเหลือเพียง 10% สิ่งนี้ได้รับการประกาศโดย U.S. Customs and Border Protection ซึ่งบ่งบอกถึงสัญญาณของการยอมประนีประนอมในสงครามการค้า
นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิทัลหลักอื่นๆ เช่น Ethereum (ETH), XRP, และ Cardano (ADA) ก็มีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งโดยเพิ่มขึ้น 6% ในวันเดียว แสดงถึงแนวโน้มการเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดขยายกว้างขึ้น ทั้งนี้ความสามารถของ BTC ในการผงาดผ่านเส้นแนวโน้มลง ซึ่งเริ่มตั้งแต่การขายออกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เกินกว่า $109,000 อาจกระตุ้นให้นักลงทุนที่ใช้กราฟัย่นอย่างเข้ามาที่ตลาดอย่างมากขึ้น
การเปิดการซื้อขายในตลาดคริปโตในช่วงเสาร์อาทิตย์นี้ได้แสดงถึงความเคลื่อนไหวเชิงบวกในตลาด ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อราคาหุ้นใน Wall Street ที่จะเปิดในวันจันทร์ ดัชนีการตลาดรวมของสองสกุลเงินที่มีเสถียรภาพสูงสุดอย่าง USDT และ USDC ได้คงตัวอยู่เหนือ $200 พันล้าน เพียงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดทางประวัติศาสตร์
ตามที่ The Kobeissi Letter กล่าวใน X ว่า “The US imports over $60 BILLION of smartphones per year. These exemptions cover some of the most crucial imports in another sign of the U.S. conceding in the trade war. After all, the bond market is forcing Trump to concede.”
ในเวลาอันใกล้นี้ ยังมีความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนด้วยการตั้งภาษีนำเข้าถึงกว่า 100% ซ้ำซากกัน แต่ตลาดการเงินบางส่วนได้ตรึงคำพูดว่ามีการการดิจินเฟิร์มเลชั่นในสหรัฐ ซึ่งตรงกันข้ามกับความกลัวที่มากขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้อและบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงในไม่ช้า
#AvareumNews #Bitcoin #Ethereum #XRP #TradeWar #CryptocurrencyNews
Disclaimer: This newsletter is produced with assistance from OpenAI's ChatGPT-4. All analyses are reviewed and verified by our research team.
