Michael Saylor Unveils Ambitious $100 Trillion Crypto Plan at White House Summit
Michael Saylor เผยกลยุทธ์ 'Crypto $100 Trillion' ที่การประชุม White House Summit
Michael Saylor, ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Strategy แบ่งปันกลยุทธ์คริปโตที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจสูงถึง $100 Trillion ในการประชุม White House Digital Assets Summit โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดตั้งกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการสนับสนุนการเข้าถึงตลาดทุนสำหรับผู้ประกอบการในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคคริปโต
ในที่ประชุม Saylor แนะนำว่าสหรัฐฯ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ถึง $100 Trillion ในอีกทศวรรษข้างหน้า โดยการใช้โอกาสจากสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการพัฒนากฏเกณฑ์ที่ชัดเจนและการครอบครอง bitcoin โดยสหรัฐฯ จะต้องครอบครอง 5%-25% ของปริมาณ bitcoin ทั้งหมดภายในปี 2035
ในข้อเสนอของเขา Saylor ได้จัดแบ่งสินทรัพย์ดิจิทัลออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ Digital Tokens, Digital Securities, Digital Currencies และ Digital Commodities ซึ่ง bitcoin อยู่ในประเภทสุดท้าย ข้อเสนอของเขานี้ยังเน้นย้ำถึงการเปิดทางให้ภาคคริปโตในสหรัฐฯ เข้าถึงตลาดทุนได้รวดเร็วขึ้น พร้อมกับยังรักษาความเป็นศูนย์กลางของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศ
การประชุม White House Crypto Summit ที่เป็นครั้งแรกนี้ยังได้เชิญผู้บริหารชั้นนำจากหลากหลายบริษัท อาทิเช่น Coinbase, Ripple, Kraken และ Gemini มาร่วมพูดคุย โดยการประชุมนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจและทิศทางในเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ
Saylor ยังได้เสนอให้รัฐบาลสนับสนุนและให้การสนับสนุนการจัดเตรียม การค้า และการเงินสำหรับสินทรัพย์ bitcoin กับธนาคารรายใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับการเสนอให้ยกเลิกนโยบายภาษีที่ถือว่ามุ่งเป้าและไม่ยุติต่อภาคคริปโตในปัจจุบัน
โดยการจัดให้มี bitcoin reserve อย่างมีกลยุทธ์นั้น Saylor คาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะสามารถลดหนี้สินแห่งชาติได้ โดยคาดว่าภายในปี 2045 การถือหุ้นนี้จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระดับ $16 ถึง $81 Trillion
ข้อแนะนำนี้ยังคงเน้นถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจและความรับผิดชอบที่ยุติธรรม เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
Source: CoinDesk
#AvareumNews #Bitcoin #DeFi #CryptoStrategy #WhiteHouseSummit #MichaelSaylor
This newsletter is produced with assistance from OpenAI's ChatGPT-4. All analyses are reviewed and verified by our research team.