เริ่มต้นของ Solana: เปลี่ยนแนวคิดสู่ความเป็นจริง

การเริ่มต้นท้าทายทางเทคนิคในการแก้ปัญหาเรื่องความสามารถในการขยายสเกลของบล็อกเชนเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Anatoly Yakovenko ได้เริ่มพระราชดำริในปี 2017. ด้วยประสบการณ์ที่เคยทำงานกับ Qualcomm, Yakovenko ได้หันมาสนใจ Web3 และเห็นศักยภาพในการทำให้การเงินแบบกระจายอำนาจและการออกแบบอินเทอร์เน็ตใหม่. ในขณะที่เทคโนโลยีมีความน่าตื่นเต้น บล็อกเชนกลับมีปัญหาสำคัญคือช้าต่อการขยายสเกล ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการยอมรับในวงกว้าง.

Yakovenko จึงได้สร้างนวัตกรรมด้วยการแนะนำวิธีการเข้ารหัสแบบใหม่ที่เรียกว่า proof-of-history (PoH) ซึ่งช่วยในการประทับเวลาให้กับธุรกรรมก่อนที่มันจะรวมเข้าในบล็อก ทำให้สามารถประมวลผลการทำธุรกรรมพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ. การพัฒนา Solana Labs เกิดขึ้นในปี 2018 โดยมี Greg Fitzgerald และ Raj Gokal ผู้ร่วมก่อตั้ง และได้รับเงินทุนประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากนักลงทุนและธุรกิจต่างๆ.

Solana ได้เปิดตัว mainnet beta อย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2020 แม้ในเวลานี้ตลาดจะเข้าสู่ความวุ่นวายจากการระบาด COVID-19 แต่เครือข่ายนี้ก็สามารถดึงดูดนักพัฒนาและนักลงทุนได้ด้วยความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงและต้นทุนที่ต่ำ. Solana Labs ยังได้รับเงินทุนเพิ่มขึ้นอีก 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิถุนายน 2021 นำโดย Andreessen Horowitz (a16z) และ Polychain Capital ซึ่งทำให้ระบบนิเวศของ Solana ขยายตัวอย่างรวดเร็ว.

ในช่วงสิ้นปี 2021 Solana ได้กลายเป็นหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยราคาที่พุ่งขึ้นถึง 260 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น. แม้จะมีความสำเร็จที่โดดเด่น แต่อีกไม่นาน Solana ต้องประสบกับความท้าทายที่ไม่คาดคิดซึ่งจะเป็นบททดสอบที่สำคัญต่อความยืดหยุ่นและความมั่นคงของเครือข่าย.

Source: https://blockworks.co/news/solana-network-origins

Tags: #AvareumNews, #Solana, #Blockchain, #Crypto, #Scalability, #ProofOfHistory, #DeFi, #Web3

This newsletter is produced with assistance from OpenAI's ChatGPT-4. All analyses are reviewed and verified by our research team.